ผู้เขียน หัวข้อ: หมอประจำบ้าน: โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดร้าย หรือ ไมแอสทีเนีย กราวิส (Myasthenia G  (อ่าน 5 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 813
    • ดูรายละเอียด
หมอประจำบ้าน: โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดร้าย หรือ ไมแอสทีเนีย กราวิส (Myasthenia Gravis: MG)

โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดร้ายหรือที่รู้จักกันในชื่อทางการแพทย์ว่า ไมแอสทีเนีย กราวิส (Myasthenia Gravis: MG) เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (Autoimmune disease) ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่อยู่ภายใต้การควบคุมของจิตใจ เช่น กล้ามเนื้อตา ใบหน้า การพูด การกลืน และแขนขา ความรุนแรงของโรคจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ตั้งแต่มีอาการเพียงเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงมากจนเป็นอันตรายถึงชีวิตหากกระทบต่อกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจ

สาเหตุของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดร้าย (Myasthenia Gravis)
สาเหตุหลักของ MG คือ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ โดยปกติแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันมีหน้าที่ต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอม เช่น เชื้อโรค แต่ในผู้ป่วย MG ระบบภูมิคุ้มกันกลับสร้างสารภูมิต้านทาน (Antibodies) ขึ้นมาโจมตีและทำลายตัวรับสารสื่อประสาทอะเซทิลโคลีน (Acetylcholine receptors) ซึ่งเป็นโปรตีนที่อยู่บริเวณรอยต่อระหว่างปลายประสาทกับกล้ามเนื้อ (Neuromuscular junction)

เมื่อตัวรับสารสื่อประสาทถูกทำลาย ทำให้สารสื่อประสาทอะเซทิลโคลีนไม่สามารถจับกับตัวรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ กล้ามเนื้อจึงไม่ได้รับสัญญาณประสาทที่เพียงพอในการหดตัว ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนแรง

นอกจากนี้ ยังพบความสัมพันธ์กับ ต่อมไทมัส (Thymus gland) ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน โดยผู้ป่วย MG ประมาณ 10-15% อาจมีเนื้องอกที่ต่อมไทมัส (Thymoma) หรือต่อมไทมัสโตผิดปกติ (Thymic hyperplasia) ซึ่งเชื่อว่ามีบทบาทในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างสารภูมิต้านทานที่ผิดปกติ

อาการของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดร้าย
อาการของ MG มักจะ แย่ลงเมื่อมีการใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำๆ และจะดีขึ้นเมื่อได้พักผ่อน อาการที่พบบ่อย ได้แก่:


อาการทางตา (พบได้บ่อยที่สุดในระยะแรก):

หนังตาตก (Ptosis): อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้าง ทำให้ดูเหมือนง่วงนอนตลอดเวลา

เห็นภาพซ้อน (Diplopia): เกิดจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทำให้การกลอกตาไม่สัมพันธ์กัน


อาการที่ใบหน้าและลำคอ:

ควบคุมการแสดงสีหน้าได้ลำบาก: ทำให้ใบหน้าดูเฉยเมย หรือยิ้มได้ไม่เต็มที่

พูดไม่ชัด เสียงขึ้นจมูก (Dysarthria): เนื่องจากกล้ามเนื้อที่ใช้ในการพูดอ่อนแรง

เคี้ยวหรือกลืนอาหารลำบาก (Dysphagia): สำลักง่าย โดยเฉพาะของเหลว


อาการที่แขนและขา:

กล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง ทำให้ยกแขนได้ไม่สุด ถือของหนักลำบาก หรือเดินแล้วเหนื่อยง่ายกว่าปกติ

อาการมักเป็นที่กล้ามเนื้อต้นแขน ต้นขา และกล้ามเนื้อคอ


อาการรุนแรง (Myasthenic Crisis):

เป็นภาวะฉุกเฉินที่อันตรายถึงชีวิต หากกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจ (เช่น กระบังลม) อ่อนแรงอย่างรุนแรง ทำให้หายใจลำบาก หอบเหนื่อย หรือหายใจล้มเหลว ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาเร่งด่วน

การวินิจฉัยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดร้าย

แพทย์จะวินิจฉัยจาก:

ประวัติและอาการ: ซักประวัติอาการอ่อนแรงที่แย่ลงเมื่อใช้งานและดีขึ้นเมื่อพัก

การตรวจร่างกายและระบบประสาท: ตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อตา ใบหน้า การพูด การกลืน และกำลังกล้ามเนื้อแขนขา

การตรวจเลือด: เพื่อหาสารภูมิต้านทานที่จำเพาะต่อโรค MG (เช่น anti-acetylcholine receptor antibody)

การทดสอบทางไฟฟ้าของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท (Electromyography: EMG): โดยเฉพาะการตรวจ Repetitive Nerve Stimulation (RNS) เพื่อดูการตอบสนองของกล้ามเนื้อต่อการกระตุ้นประสาทซ้ำๆ

การทดสอบ Tensilon test (ปัจจุบันไม่นิยมใช้แล้ว): เป็นการฉีดยา Edrophonium ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์สั้นๆ เพื่อเพิ่มสารสื่อประสาทอะเซทิลโคลีน หากอาการอ่อนแรงดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็สนับสนุนการวินิจฉัย

การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทรวงอก (CT Chest): เพื่อตรวจหาความผิดปกติของต่อมไทมัส เช่น ต่อมไทมัสโต หรือเนื้องอกต่อมไทมัส

การรักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดร้าย
การรักษา MG มุ่งเน้นไปที่การควบคุมอาการ ลดการทำงานที่ผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน และป้องกันภาวะแทรกซ้อน:


ยาที่เพิ่มสารสื่อประสาท (Cholinesterase inhibitors):

เช่น Pyridostigmine (Mestinon) ช่วยเพิ่มปริมาณสารสื่อประสาทอะเซทิลโคลีนที่รอยต่อกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อมีแรงมากขึ้น เป็นยาที่ใช้ควบคุมอาการหลัก


ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressants):

เช่น Prednisolone (สเตียรอยด์), Azathioprine, Mycophenolate Mofetil เพื่อลดการสร้างสารภูมิต้านทานที่ผิดปกติ

การใช้ยากลุ่มนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีผลข้างเคียง


การผ่าตัดต่อมไทมัส (Thymectomy):

แนะนำในผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 60 ปี ที่มีอาการของ MG และ/หรือไม่พบเนื้องอกต่อมไทมัส เชื่อว่าการผ่าตัดเอาต่อมไทมัสออกจะช่วยให้โรคดีขึ้นหรือหายขาดได้ในบางราย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อายุน้อยและมีอาการไม่นาน

หากพบเนื้องอกต่อมไทมัส ควรผ่าตัดออกทุกราย


การรักษาเร่งด่วนสำหรับภาวะ Myasthenic Crisis:

Plasmapheresis (การเปลี่ยนถ่ายพลาสมา): เป็นการกรองเอาสารภูมิต้านทานที่ผิดปกติออกจากเลือด

Intravenous Immunoglobulin (IVIG): เป็นการให้สารภูมิต้านทานปกติเข้าทางหลอดเลือดดำ เพื่อยับยั้งการทำงานของสารภูมิต้านทานที่ผิดปกติ


การดูแลทั่วไป:

พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด

หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้อาการแย่ลง เช่น การติดเชื้อ ยาบางชนิด การออกกำลังกายหนัก

กายภาพบำบัด เพื่อคงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และระมัดระวังการสำลัก

โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดร้ายเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องได้รับการดูแลและรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยการรักษาที่เหมาะสม ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถควบคุมอาการและใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติครับ หากมีอาการที่สงสัย ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาททันที

 

ลงประกาศฟรี โฆษณาฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทสินค้าฟรี เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google