ท่อลมร้อน ที่เหมาะกับการดูดควันในครัวอุตสาหกรรมท่อลมร้อนที่เหมาะกับการดูดควันในครัวอุตสาหกรรมนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งครับ เพราะควันจากครัวอุตสาหกรรมไม่ได้มีแค่ความร้อนสูง แต่ยังมีไอน้ำมัน ไขมัน และสารเคมีจากการปรุงอาหารปะปนอยู่ด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถกัดกร่อนหรือสะสมในท่อได้ หากเลือกใช้วัสดุไม่เหมาะสม
นี่คือคุณสมบัติและประเภทของท่อลมร้อนที่เหมาะกับการใช้งานในครัวอุตสาหกรรม:
คุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับท่อลมร้อนในครัวอุตสาหกรรม:
ทนทานต่ออุณหภูมิสูง: ควันจากเตาหรืออุปกรณ์ทำอาหารอาจมีอุณหภูมิสูงมาก ท่อต้องสามารถทนความร้อนได้ดีเยี่ยมเพื่อป้องกันการละลาย เสียรูป หรือติดไฟ
ทนทานต่อไขมันและน้ำมัน (Grease & Oil Resistance): ไขมันและน้ำมันในควันจะเกาะติดผนังท่อได้ง่าย หากวัสดุไม่ทนทาน อาจทำให้เกิดการกัดกร่อนหรือเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
ทนทานต่อการกัดกร่อน (Corrosion Resistance): สารเคมีบางชนิดที่ระเหยจากอาหาร หรือสารทำความสะอาดที่อาจถูกดูดเข้าไปในระบบ อาจทำให้เกิดการกัดกร่อนภายในท่อ
พื้นผิวภายในเรียบ (Smooth Interior Surface): ช่วยลดการเกาะติดสะสมของไขมันและเขม่า ทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น และลดโอกาสการอุดตัน
ทนทานต่อการติดไฟ (Fire Resistance/Non-Combustible): เป็นคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่สำคัญมาก เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ไขมันในท่อ
ทำความสะอาดง่าย (Easy to Clean): ระบบท่อดูดควันในครัวอุตสาหกรรมจำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง การเลือกท่อที่ออกแบบมาให้ทำความสะอาดง่ายจะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
ประเภทของท่อลมร้อนที่เหมาะสม:
ท่อสเตนเลสสตีล (Stainless Steel Ducts):
คุณสมบัติ: เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดและนิยมใช้มากที่สุดสำหรับครัวอุตสาหกรรม
ทนความร้อนสูง: สเตนเลสสตีลเกรด 304 หรือ 316 สามารถทนอุณหภูมิได้สูงมาก
ทนทานต่อการกัดกร่อน: โดยเฉพาะเกรด 316 มีความทนทานต่อกรดและคลอไรด์ได้ดีเยี่ยม ซึ่งเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีไขมันและสารเคมี
พื้นผิวเรียบ: ทำความสะอาดง่าย ลดการสะสมของไขมัน
ไม่ติดไฟ: เป็นวัสดุที่ไม่ติดไฟ ปลอดภัยสูง
รูปแบบ: มักใช้เป็นท่อแข็ง (Rigid Ducts) หรือท่อกึ่งยืดหยุ่น (Semi-Flexible) แบบ Interlock ที่ทำจากสเตนเลสสตีล
ท่ออลูมิเนียมกึ่งแข็ง (Semi-Rigid Aluminum Ducts):
คุณสมบัติ: ผลิตจากอลูมิเนียมคุณภาพสูง มีความยืดหยุ่นพอสมควร สามารถดัดโค้งงอได้ง่าย
ทนความร้อน: ทนความร้อนได้สูงถึงประมาณ 250°C (บางชนิดอาจถึง 400°C) ซึ่งเพียงพอสำหรับควันครัวส่วนใหญ่
ทนทานต่อไอระเหยสารเคมีและควัน: อลูมิเนียมไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีหลายชนิด
น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย: ช่วยลดภาระโครงสร้างและค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง
ไม่เป็นพิษและไม่มีกลิ่น: เหมาะสำหรับงานระบายอากาศ
ข้อควรพิจารณา: อาจไม่เหมาะกับอุณหภูมิที่สูงมากเป็นพิเศษ หรือสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงมาก
ท่อผ้าใยแก้วเคลือบซิลิโคน (Silicone Coated Fiberglass Fabric Ducts):
คุณสมบัติ: เป็นท่ออ่อน (Flexible Duct) ที่มีโครงลวดสปริงภายใน
ทนความร้อนสูง: ทนอุณหภูมิได้ประมาณ 250°C ถึง 400°C ขึ้นอยู่กับเกรด
ยืดหยุ่นสูง: เหมาะสำหรับจุดที่ต้องการความยืดหยุ่นในการติดตั้ง หรือเป็นข้อต่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์
ทนทานต่อสารเคมี: ซิลิโคนมีคุณสมบัติทนทานต่อสารเคมีและน้ำมันได้ในระดับหนึ่ง
ข้อควรพิจารณา: อาจไม่ทนทานต่อการขูดขีดหรือการสะสมของไขมันหนาๆ เท่าท่อโลหะ และอาจต้องทำความสะอาดบ่อยขึ้น
ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติมในการติดตั้ง:
ระบบป้องกันไฟ (Fire Suppression System): ควรติดตั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติ (เช่น Wet Chemical System) ภายในท่อดูดควัน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
พัดลมดูดอากาศ (Exhaust Fan): เลือกพัดลมที่ทนความร้อนและมีกำลังดูดเพียงพอ และควรติดตั้งในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับการบำรุงรักษา
ตัวดักจับไขมัน (Grease Filters/Traps): ติดตั้งตัวดักจับไขมันคุณภาพสูงที่ฮูดดูดควัน เพื่อลดปริมาณไขมันที่เข้าสู่ระบบท่อ ซึ่งจะช่วยลดการอุดตันและลดความเสี่ยงไฟไหม้
จุดทำความสะอาด (Access Doors/Cleanouts): ออกแบบให้มีช่องเปิดสำหรับทำความสะอาดท่อเป็นระยะ โดยเฉพาะบริเวณข้อโค้งงอหรือจุดที่มีแนวโน้มสะสมไขมัน
การปรึกษาวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านระบบระบายอากาศสำหรับครัวอุตสาหกรรม จะช่วยให้คุณเลือกวัสดุ ขนาด และออกแบบระบบได้อย่างเหมาะสมที่สุด เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดและความปลอดภัยครับ