แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 55
1
โรคมะเร็ง คืออะไรและเกิดขึ้นได้อย่างไร?

มะเร็งคือกลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในร่างกายค่ะ โดยที่เซลล์ปกติจะมีการเจริญเติบโตและตายไปตามวงจร แต่เซลล์มะเร็งจะมีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนอย่างไม่หยุดยั้งและไม่สามารถควบคุมได้


กระบวนการเกิดมะเร็ง

มะเร็งเกิดขึ้นเมื่อ ดีเอ็นเอ (DNA) ในเซลล์เกิดความเสียหาย ซึ่งอาจมาจากปัจจัยภายในหรือภายนอกร่างกาย เมื่อดีเอ็นเอเสียหาย เซลล์จะมีการทำงานที่ผิดปกติและกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็ง ซึ่งมีความสามารถพิเศษในการ

แบ่งตัวไม่หยุด: เซลล์มะเร็งจะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วกว่าเซลล์ปกติ

หลีกหนีภูมิคุ้มกัน: เซลล์มะเร็งสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับและทำลายจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้

แพร่กระจาย: เซลล์มะเร็งสามารถรุกรานไปยังเนื้อเยื่อข้างเคียง หรือเดินทางผ่านกระแสเลือดและระบบน้ำเหลืองไปยังอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายได้ ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า การแพร่กระจาย (Metastasis)


สาเหตุหลักที่ทำให้เซลล์กลายพันธุ์

พันธุกรรม: มีการถ่ายทอดความผิดปกติทางพันธุกรรมจากพ่อแม่สู่ลูก

พฤติกรรม: การสูบบุหรี่, การดื่มแอลกอฮอล์, การทานอาหารไขมันสูงและอาหารแปรรูป

สิ่งแวดล้อม: การได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดด, มลภาวะทางอากาศ, และสารเคมีบางชนิด

การติดเชื้อ: ไวรัสบางชนิด เช่น ไวรัสตับอักเสบบีและซี (มะเร็งตับ), ไวรัส HPV (มะเร็งปากมดลูก)

การรู้เท่าทันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงจะช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งได้ค่ะ

2
จัดฟันบางนา: ไขข้อสงสัย “ฟันเหลือง” เป็นเรื่องธรรมชาติจริงหรือไม่ ?

เชื่อว่าหลายๆท่านไม่กล้าที่จะยิ้มหรืออ้าปากเต็มที่ในการพูดคุย ไม่ว่าจะเป็นการติดต่องาน หรือ การพูดคุยเล่นกับเพื่อนร่วมงานก็ตาม หากฟันของท่านไม่ขาวสวย แต่มีสีเหลืองหม่นหมองดูแล้วไม่น่ามอง ทำให้ท่านนั้นอาจจะเสียบุคลิกไปได้เลย

“ฟันเหลือง” หลายท่านอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ทั้งยังมีความเชื่อด้วยว่าฟันเหลืองนั้นมาจากพันธุกรรมส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น จึงมองว่า ฟันเหลืองเป็นเรื่องธรรมชาติ ซึ่งจะบอกว่าผิดซะทีเดียวก็คงไม่ใช่ จะถูกหมดก็ไม่ใช่เช่นกัน เพราะ ฟันเหลืองนั้นกว่า 90% เกิดจากพฤติกรรมของแต่ละคนนั่นเอง

ซึ่งในวันนี้จะขอพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับ ฟันเหลือง ให้มากขึ้นว่าเกิดจากพฤติกรรมใดบ้าง เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านั้น ดังต่อไปนี้

สาเหตุหลักๆที่ทำให้ฟันเหลือง หรือเปลี่ยนสี

1.    พฤติกรรมการบริโภคอาหารสีเข้ม

ต้องขอบอกเลยว่าหลายๆท่านที่ฟันเปลี่ยนสีส่วนมากจะมาจากพฤติกรรมการบริโภคเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการเปลี่ยนสีฟันจากการบริโภคจะเกิดขึ้นทีละน้อยๆจนท่านไม่ทันจะได้สังเกตเห็น

ซึ่งอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้มเหล่านี้ เช่น ชา กาแฟ เฉาก๊วย ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ไวน์แดง และแกงสีสันเข้มข้นต่างๆ การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้จะทำให้เกิดสีสะสมที่ฟันไปเรื่อยๆจนเปลี่ยนสีกลายเป็นสีเหลือง หรือสีเดียวกับอาหารที่บริโภคเป็นประจำ


2.    พฤติกรรมการสูบบุหรี่

หลายท่านคงทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า สารต่างๆในบุหรี่มีความเหนียวหนืดเกาะติดแน่นทนนาน และทำให้สุขภาพร่างกายทรุดโทรม นอกจากสุขภาพร่างกายที่ถูกทำลายแล้ว สุขภาพช่องปากก็จะเสียหายตามไปด้วย

ซึ่งสารเคมีที่เกิดจากการเผาไหม้ของบุหรี่ โดยเฉพาะสารที่มีส่วนประกอบของกำมะถัน เป็นตัวการหลักในการทำให้ฟันเปลี่ยนสี หากเมื่อท่านทำการสูบบุหรี่สารเหล่านี้จะไปสะสมอยู่บนผิวฟัน และแทรกซึมเข้าไปในชั้นเนื้อฟัน ซึ่งสามารถทำให้ฟันเปลี่ยนสีได้อย่างรวดเร็วมาก


3.    พฤติกรรมทำลายชั้นเคลือบฟัน

ชั้นเคลือบฟัน จะมีลักษณะเป็นสีขาวใส โดยจะมีหน้าที่ในการช่วยปกป้องและปกปิดชั้นเนื้อฟันที่มีสีเหลือง ซึ่งหากว่าชั้นเคลือบฟันถูกทำลาย หรือค่อยๆบางลง ก็จะทำให้สีเหลืองของชั้นเนื้อฟันเด่นชัดขึ้นมาทำให้เห็นเป็นฟันสีเหลืองนั่นเอง

ซึ่งพฤติกรรมการทำลายชั้นเคลือบฟันก็คือ การบริโภคอาหารที่มีรสเปรี้ยว น้ำอัดลมต่างๆ เพราะมีภาวะเป็นกรดซึ่งกัดกร่อนชั้นเคลือบฟันได้ดี รวมถึงการใช้ขนแปรงที่มีความแข็งจะทำให้เกิดการขูดทำลายชั้นเคลือบฟันได้นั่นเอง


4.    อายุ

สำหรับข้อนี้ถือว่าเป็นไปตามธรรมชาติ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ฟันก็จะเริ่มสึกกร่อนจากการใช้งาน เช่น การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่เป็นกรดสะสม การแปรงฟันที่ผิดวิธีต่างๆเป็นระยะเวลานาน จนทำให้ฟันเริ่มเปลี่ยนสีจนกลายเป็นสีเหลือง นอกจากนี้จากการศึกษาจะพบบ่อยมากว่าในผู้สูงอายุโพรงประสาทและเส้นเลือดฝอยที่มาหล่อเลี้ยงฟันมักจะมีอาการตีบมากขึ้น ชั้นเนื้อฟันที่มีสีเหลืองจะเริ่มมีความหนาขึ้น ทำให้ฟันผู้สูงอายุจะมีสีเหลืองเข้ม และแห้งเปราะนั่นเอง


5.    ธรรมชาติของฟัน

ในฟันแต่ละซี่จะมีความหนาของชั้นเนื้อฟัน และชั้นเคลือบฟันไม่เท่ากัน เช่น ฟันเขี้ยวจะมีลักษณะเนื้อฟันที่หนากว่าเคลือบฟันจึงทำให้มีสีเหลืองมากกว่าฟันซี่ข้างเคียงที่มีชั้นเคลือบฟันที่หนากว่าชั้นเนื้อฟัน


6.    ฟันผุลึกถึงโพรงประสาท

ต้องขอบอกเลยว่าสำหรับข้อนี้ฟันเปลี่ยนสีจะรุนแรงกว่าข้ออื่นๆ เมื่อท่านมีอาการฟันผุฟันจะเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลหรือถึงขั้นเป็นสีดำ แต่หากว่ามีอาการฟันผุลึกไปถึงโพรงประสาทจนถึงขั้นทำลายโพรงประสาทฟัน เม็ดเลือดฝอยที่อยู่ในเส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยงประสาทฟันจะแตกกลายเป็นสีดำ


7    ยาและความผิดปกติตั้งแต่ระยะสร้างฟัน

สำหรับข้อนี้นั้นต้องบอกว่าเป็นการควบคุมที่ยากมาก เนื่องจากว่าจะมียาปฏิชีวนะในกลุ่มเตตระไซคลิน ซึ่งมารดามักได้รับในขณะที่ตั้งครรภ์ ซึ่งยาในกลุ่มนี้จะส่งผลทำให้เด็กในครรภ์มีฟันที่เหลืองตั้งแต่ในครรภ์ ซึ่งหากว่ารับประทานยาในกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้บุตรในครรภ์จะมีฟันสีเหลืองเข้มไปตลอดชีวิตนั่นเอง

3
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


4
15 วัดสวย นครนายก ที่เที่ยววัดใกล้กรุงเทพ ไปไหว้พระ เสริมดวงกัน!

จังหวัดนครนายกมีวัดสวยงามและศักดิ์สิทธิ์มากมาย ซึ่งเหมาะสำหรับสายบุญที่ต้องการเดินทางไปไหว้พระเสริมดวงแบบเช้าไปเย็นกลับ นี่คือ 15 วัดสวยในนครนายกที่คุณไม่ควรพลาดค่ะ

วัดจุฬาภรณ์วนาราม: วัดที่โดดเด่นด้วยต้นไม้และภูเขาที่เขียวขจี มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่และเจดีย์ที่สวยงาม

วัดสีชมพู หรือ วัดบางมะกง: มีอุโบสถสีชมพูที่สวยงามมาก เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปยอดนิยม

วัดคีรีวัน: มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ริมภูเขา และมีเจดีย์ที่สวยงาม

วัดมณีวงศ์: มีอุโบสถสีขาวและสีทองที่วิจิตรงดงาม และมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยให้กราบไหว้

วัดเขาแก้ว (วัดเขาโพธิ์แก้ว): ตั้งอยู่บนเนินเขา มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ และสามารถชมวิวทิวทัศน์รอบๆ วัดได้อย่างสวยงาม

วัดโพธิ์งาม: วัดเก่าแก่ที่มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ และมีต้นโพธิ์อายุกว่าร้อยปีที่สวยงาม

วัดทองย้อย: มีวิหารที่สวยงามและมีพระพุทธรูปปางสมาธิให้กราบไหว้

วัดถ้ำสาริกา: วัดที่ตั้งอยู่ในถ้ำสวยงามตามธรรมชาติ มีพระพุทธรูปให้กราบไหว้

วัดกุฎีเตี้ย: มีพระพุทธรูปเก่าแก่และมีอุโบสถที่สวยงาม

วัดคีรีวัน: วัดที่ตั้งอยู่บนเขา มีเจดีย์และพระพุทธรูปที่สวยงาม สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบๆ วัดได้อย่างกว้างไกล

วัดธรรมสถิต: มีพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินอ่อนที่สวยงาม และมีบรรยากาศที่เงียบสงบ

วัดป่าศรีถาวรนิมิต: เป็นวัดป่าที่มีความร่มรื่นและเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรม

วัดพระฉาย: มีพระพุทธรูปโบราณและรอยพระพุทธบาทจำลองที่สวยงาม

วัดศรีสุวรรณ: มีเจดีย์ที่สวยงามและพระพุทธรูปที่สำคัญ

วัดนางรอง: วัดเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนาน มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้

5
วิธีเริ่มต้นสร้างอาชีพ จัดส่งอาหารให้ความสะดวกสบายและรวดเร็วของผู้บริโภคที่ประสบความสำเร็จ

อุตสาหกรรมการจัดส่งอาหารเติบโตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ประกอบการ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของร้านอาหารหรือพ่อครัวอิสระ การเริ่มต้นธุรกิจจัดส่งอาหารอาจเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ การขายอาหารเดลิเวอรี่เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากผู้คนหันมาสั่งอาหารออนไลน์กันมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็ว

นี่คือแนวทางที่จะช่วยให้คุณเปิดตัวและขยายบริการจัดส่งอาหารของคุณได้อย่างประสบความสำเร็จ
1. ระบุกลุ่มเป้าหมายของคุณ
ก่อนเริ่มต้น ให้ตัดสินใจก่อนว่าคุณต้องการขายอาหารประเภทใด กลุ่มเป้าหมายของคุณอาจเป็นดังนี้:
มื้ออาหารเพื่อสุขภาพ (คาร์โบไฮเดรตต่ำ มังสวิรัติ โปรตีนสูง)
อาหารทำเองง่ายๆ
อาหารนานาชาติ (ไทย, อิตาเลี่ยน, ญี่ปุ่น, ฯลฯ)
อาหารพิเศษ (ปลอดกลูเตน, คีโต, ฮาลาล)
อาหารจานด่วนและขนมขบเคี้ยว
การเลือกกลุ่มเฉพาะจะช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและโดดเด่นกว่าคู่แข่ง

2. สร้างแผนธุรกิจ
แผนธุรกิจที่มีโครงสร้างที่ดีควรประกอบด้วย:
ตลาดเป้าหมาย – ใครคือลูกค้าเป้าหมายของคุณ?
เมนูและราคา – คุณจะเสิร์ฟอาหารจานอะไรและราคาเท่าไร?
กลยุทธ์การตลาด – คุณจะส่งเสริมธุรกิจของคุณอย่างไร?
งบประมาณและค่าใช้จ่าย – จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นและดำเนินการเท่าไร?

3. จัดเตรียมห้องครัวของคุณและรับใบอนุญาต
หากคุณทำงานจากที่บ้าน โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าห้องครัวของคุณเป็นไปตามมาตรฐานด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย ขอรับใบอนุญาตที่จำเป็นและใบอนุญาตด้านอาหารตามที่กำหนดในพื้นที่ของคุณ หากคุณใช้ห้องครัวเชิงพาณิชย์ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าห้องครัวนั้นมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับการเตรียมและจัดเก็บอาหาร

4. พัฒนาระบบการสั่งซื้อ
ลูกค้าควรสามารถสั่งอาหารได้อย่างง่ายดาย ลองพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้:
เว็บไซต์หรือแอปของคุณเอง – หากคุณต้องการควบคุมคำสั่งซื้อแบบเต็มรูปแบบ
แพลตฟอร์มการจัดส่งอาหาร – ร่วมมือกับแอปเช่น UberEats, DoorDash หรือ GrabFood
โซเชียลมีเดียและแอปส่งข้อความ – รับคำสั่งซื้อผ่านทาง Facebook, Instagram หรือ LINE
ทำให้กระบวนการสั่งซื้อเรียบง่ายและสะดวกสบายสำหรับลูกค้า

5. ตั้งค่าตัวเลือกการจัดส่ง
เลือกวิธีจัดส่งอาหารของคุณ:
จัดส่งด้วยตัวเอง – หากคุณมีทรัพยากร คุณสามารถจัดส่งคำสั่งซื้อด้วยตัวเองได้
ร่วมมือกับบริการจัดส่ง – ใช้บริการจัดส่งของบุคคลที่สามเพื่อประสิทธิภาพ
รูปแบบไฮบริด – การผสมผสานบริการส่งมอบภายในและภายนอก
การส่งมอบที่รวดเร็วและเชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญต่อความพึงพอใจของลูกค้า

6. ทำการตลาดธุรกิจของคุณ
เพื่อดึงดูดลูกค้าให้ใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิทัล:
การตลาดโซเชียลมีเดีย – โพสต์เนื้อหาและโปรโมชั่นที่น่าสนใจ
SEO ในพื้นที่ – เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณสำหรับการค้นหาในพื้นที่
โฆษณาออนไลน์ – ลงโฆษณาบน Facebook, Instagram และ Google
ผู้มีอิทธิพลและบล็อกเกอร์ด้านอาหาร – ร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นเพื่อเผยแพร่
โปรแกรมความภักดี – เสนอส่วนลดและรางวัลให้กับลูกค้าประจำ

7. เน้นคุณภาพและการบริการลูกค้า
อาหารที่ยอดเยี่ยมและบริการที่เป็นเลิศจะช่วยให้คุณรักษาลูกค้าไว้ได้ ให้แน่ใจว่า:
คุณภาพอาหารยังคงสม่ำเสมอ
คำสั่งซื้อถูกส่งมอบตรงเวลา.
ลูกค้าได้รับการติดต่อสื่อสารและการสนับสนุนที่ดี
ส่งเสริมการรีวิวและข้อเสนอแนะจากลูกค้าเพื่อปรับปรุงบริการของคุณ

การเริ่มต้นธุรกิจจัดส่งอาหารต้องอาศัยการวางแผน การตลาด และความทุ่มเทเพื่อบริการที่มีคุณภาพ การระบุช่องทางเฉพาะ การจัดทำระบบการสั่งซื้อที่มีประสิทธิภาพ และการรับประกันการจัดส่งตรงเวลา จะช่วยให้คุณสร้างแบรนด์การจัดส่งอาหารที่ประสบความสำเร็จได้ ด้วยความต้องการความสะดวกสบายที่เพิ่มมากขึ้น ตอนนี้ถือเป็นเวลาที่ดีในการเข้าสู่ตลาด


6
Doctor At Home: ไอกรน (Pertussis/Whooping cough)

ไอกรน (ไอ 3 เดือน ไอร้อยวัน ก็เรียก) เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กอายุ 2-6 ปี พบมากในฤดูฝน บางครั้งอาจพบระบาดตามหมู่บ้านหรือโรงเรียน

ในปัจจุบันพบได้ค่อนข้างน้อย เนื่องจากเด็ก ๆ ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้อย่างทั่วถึง

สาเหตุ

เกิดจากเชื้อไอกรน ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรีย มีชื่อว่า บอร์เดเทลลาเพอร์ทัสซิส (Bordetella pertussis) เชื้อนี้มีอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วย ติดต่อเข้าทางเดินหายใจโดยการหายใจสูดเอาฝอยละอองของน้ำลายหรือเสมหะที่ผู้ป่วยไอหรือจามรด หรือออกมาแขวนลอยอยู่ในอากาศ หรือโดยผ่านมือที่สัมผัสถูกสิ่งที่ปนเปื้อน น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย

ระยะฟักตัว 6-20 วัน (ส่วนใหญ่ 7-10 วัน)


อาการ

แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่

1. ระยะเป็นหวัด มีไข้ต่ำ ๆ น้ำมูกไหล จาม และไอคล้ายไข้หวัด อาการไอจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเข้าสู่ระยะที่สอง ระยะนี้จะนานประมาณ 7-14 วัน

2. ระยะไอรุนแรง มีอาการไอติดต่อกันครั้งละนาน ๆ จนตัวงอและหายใจแทบไม่ทัน เมื่อหยุดไอจะหายใจเข้ายาว ๆ เสียงดังวู้บ (ยกเว้นทารกต่ำกว่า 6 เดือน อาจไม่มีอาการนี้) และมักจะอาเจียนมีเสมหะออกมาด้วยเสมอ ในรายที่ไอรุนแรง หน้าจะเขียว ตาโปนแดง หลอดเลือดที่คอโป่ง บางรายอาจไอจนหลอดเลือดฝอยที่ไต้เยื่อบุตาแตก เห็นเป็นปื้นแดงที่ตาขาว และอาจพบรอย บวม ช้ำ หรือห้อเลือดที่หนังตาด้วย

ในเด็กเล็กอาจมีอาการชักเกร็ง หยุดหายใจ ตัวเขียว เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง

อาการไอเป็นชุดดังกล่าวมักจะเป็นมากตอนกลางคืน หรือถูกอากาศเย็น ดื่มน้ำเย็นจัด ถูกควันบุหรี่หรือถูกฝุ่น

ระยะนี้จะนานประมาณ 1 เดือน แต่จะเป็นมากในช่วง 2 สัปดาห์แรก ผู้ป่วยมักพบแพทย์ในระยะนี้ด้วยอาการไอดังกล่าว ส่วนใหญ่จะไม่มีไข้ ยกเว้นรายที่มีโรคปอดอักเสบแทรกซ้อน

3. ระยะพักฟื้น อาการไอจะค่อย ๆ ลดน้อยลงกินข้าวได้มากขึ้น น้ำหนักขึ้น แต่ถ้ามีโรคแทรกซ้อน เช่น หลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบ ก็อาจไอติดต่อกันนานถึง 3 เดือน จึงเรียกว่า ไอ 3 เดือน หรือไอร้อยวัน


ภาวะแทรกซ้อน

ที่สำคัญ คือ ปอดอักเสบ ซึ่งเกิดจากมีเชื้อแบคทีเรียตัวอื่นเข้าแทรกซ้อน และเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญในกลุ่มผู้ป่วยเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี

อาจทำให้เกิดอาการชักเกร็ง และหยุดหายใจถึงตายได้ เนื่องจากสมองขาดออกซิเจนระหว่างที่ไอนาน ๆ มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี

อาจพบหลอดลมอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ ปอดแฟบ (atelectasis)

ในรายที่ไอรุนแรง มักมีเลือดออกที่ใต้ตาขาว (เห็นเป็นปื้นแดง) หรือทำให้ขอบตาเขียวช้ำ บางครั้งอาจมีเลือดออกในสมองหรือในลูกตา แต่พบไม่มาก

อาจทำให้โรคบางอย่างที่มีอยู่ก่อนแล้ว เช่น ไส้เลื่อน สะดือจุ่น โรคหัวใจ เป็นต้น กำเริบจนอาจเป็นอันตรายได้

ในผู้ใหญ่อาจไอแรงจนกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ได้ กระดูกซี่โครงหัก หมองรองกระดูกเคลื่อน

ผู้ที่มีเชื้อวัณโรคซ่อนเร้นอยู่ก่อน อาจมีอาการวัณโรคกำเริบ เนื่องจากไอกรนทำให้ภูมิคุ้มกันโรคลดลง


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

ในระยะแรกของโรค อาจตรวจพบไข้ต่ำ ๆ น้ำมูกไหล คล้ายไข้หวัด

ในระยะต่อมาที่มีอาการไอรุนแรง มักไม่มีไข้ คอไม่แดง และเสียงปอดปกติ อาจพบปื้นแดงที่ตาขาว หนังตาบวมฟกช้ำ อาจพบอาการไอเป็นชุด ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคนี้

ในรายที่มีโรคปอดอักเสบ หรือหลอดลมอักเสบแทรกซ้อน  อาจมีไข้ และเวลาใช้เครื่องฟังตรวจปอดจะได้ยินเสียงกรอบแกรบ (crepitation) หรือเสียงอึ๊ด (rhonchi)

ในรายที่จำเป็นต้องวินิจฉัยให้แน่ชัด แพทย์จะตรวจเลือด (ทำการทดสอบทางน้ำเหลือง) เพื่อตรวจหาระดับสารภูมิต้านทานต่อเชื้อไอกรน หรือตรวจหาเชื้อจากบริเวณคอหอย


การรักษาโดยแพทย์

นอกจากแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยแล้ว แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ในรายที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน ให้การรักษาตามอาการ เช่น ลดไข้ แก้ไอ เป็นต้น ถ้าให้ยาแก้ไอเพื่อระงับอาการไอไม่ได้ผล ให้ใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำผึ้ง 4 ช้อนโต๊ะ จิบบ่อย ๆ (สำหรับเด็กอายุมากกว่ากว่า 1 ปี ไม่แนะนำให้ใช้สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี)

ส่วนยาปฏิชีวนะ มักจะให้ในระยะที่เริ่มมีอาการไม่เกิน 1 สัปดาห์ หรือในเด็กที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เริ่มป่วยเป็นโรคนี้ แต่ยังไม่เกิดอาการ ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงและโรคแทรกซ้อนลงได้ แต่ไม่ช่วยลดระยะของโรคให้สั้นลง ยาที่ใช้ เช่น อีริโทรไมซิน โคไตรม็อกซาโชล ไรแฟมพิซิน อะซิโทรไมชิน คลาริโทรไมซิน เป็นต้น

แต่ถ้ามีอาการแสดงเกิน 1-2 สัปดาห์ การให้ยาปฏิชีวนะมักไม่ได้ผล ยกเว้นในรายที่มีปอดอักเสบหรือหลอดลมอักเสบแทรกซ้อน

ส่วนอาการเลือดออกที่ตาขาว ไม่ต้องทำอะไรจะค่อย ๆ จางหายไปได้เอง

2. ในรายที่มีปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ หรือหูชั้นกลางอักเสบ ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น อะม็อกซีซิลลิน  โคอะม็อกซิคลาฟ, อีริโทรไมซิน, ร็อกซิโทรไมซิน เป็นต้น

3. ในทารกที่มีอาการชักเกร็ง ตัวเขียว หยุดหายใจ แพทย์จะทำการผายปอดโดยการเป่าปาก และใช้ลูกยางดูดเอาเสมหะออก และรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล

4. ถ้ามีอาการหอบหรือขาดน้ำรุนแรง แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล

5. ถ้าพบในเด็กทารกอายุต่ำกว่า 3 เดือน แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล เพื่อการดูแลอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะปลอดภัย

6. ถ้าไอเรื้อรังร่วมกับน้ำหนักลด แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติม อาจพบว่ามีวัณโรคกำเริบแทรกซ้อนได้

ผลการรักษา ส่วนใหญ่มักจะมีอาการไอนานเป็นเดือน ๆ (บางรายอาจนานถึง 3 เดือน) ซึ่งจะค่อย ๆ ทุเลาหายไปเอง ส่วนน้อย (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี) อาจมีภาวะแทรกซ้อน ซึ่งบางรายแพทย์จำเป็นต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล


การดูแลตนเอง

1. หากมีอาการคล้ายไข้หวัด แต่มีอาการไอรุนแรง ไอติดต่อกันครั้งละนาน ๆ จนตัวงอและหายใจแทบไม่ทัน เมื่อหยุดไอจะหายใจเข้ายาว ๆ เสียงดังวู้บ หรือสงสัยว่าเป็นไอกรน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบในเด็กที่มีประวัติว่าไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคไอกรนมาก่อน ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นไอกรน ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามการรักษาตามที่แพทย์นัด ดังนี้
    ให้เด็กอยู่ในที่ที่อากาศปลอดโปร่ง ให้ดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ เพื่อให้เสมหะใสและขับออกง่าย
    ให้อาหารทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง เพื่อลดอาการอาเจียน ถ้าอาเจียนมากให้อาหารทีละน้อย และให้ทดแทนหลังอาเจียน หรือให้น้ำเกลือผสมเอง (น้ำสุก 1 ขวด แม่โขงกลม + น้ำตาลทราย  2 ช้อนโต๊ะ + เกลือแกง 1/2 ช้อนชา)

 
ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการผิดสังเกต เช่น หายใจหอบ อาเจียนมาก กินอาหารได้น้อย น้ำหนักลด เป็นต้น
    หลังกินยา มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

2. ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ควรไปพบแพทย์เพี่อทำการป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้

การป้องกัน

1. โรคนี้ป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนรวมป้องกันคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน (DTP) ตั้งแต่อายุ 2 เดือน

2. สำหรับผู้สัมผัสโรคอย่างใกล้ชิด ถ้าไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้มาก่อน ควรฉีดวัคซีนป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรนตามปกติ ถ้าเคยฉีดมาแล้ว 3 ครั้ง ควรฉีดกระตุ้นอีกครั้ง (ยกเว้นฉีดเข็มสุดท้ายมาภายใน 6 เดือน) ถ้าเคยฉีดมาแล้วอย่างน้อย 4 ครั้ง ควรฉีดกระตุ้นอีกครั้ง (ยกเว้นฉีดเข็มสุดท้ายมาภายใน 3 ปี หรืออายุเกิน 6 ปี) นอกจากนี้แพทย์จะให้ยาอีริโทรไมซินกินป้องกันนาน 14 วัน

ข้อแนะนำ

1. ควรแยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติอย่างน้อย 5 วัน นับจากวันที่เริ่มให้ยาปฏิชีวนะ

2. การปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคนี้ ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับไข้หวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี ที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกัน ควรหลีกเลี่ยงการอยู่บ้านเดียวกับผู้ป่วย

7
รถรับจ้างย้ายบ้าน รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ราคาถูก บริการทั่วไทย ใครก็ใช้งานได้

รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ราคาถูก ทำความรู้จักกัน

ปัจจุบันนี้การขนของไปต่างจังหวัดไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว เพราะมีบริการ รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ราคาถูก ที่สามารถจ้างขนของ ย้ายของได้ตามที่ต้องการไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของเมืองไทยก็สามารถเรียกใช้บริการได้อย่างสะดวก สำหรับใครที่สนใจและอยากใช้บริการเรามีขั้นตอนง่าย ๆ มาบอกกัน

การขนส่งสินค้าและของก็เป็นสิ่งสำคัญที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันของเราทุกคน โดยเฉพาะกับการขนส่งของขนาดใหญ่ ที่ต้องการรถขนส่งขนาดใหญ่เพื่อส่งของไปยังต่างจังหวัด การหาบริการ รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ที่มีราคาถูก และบริการทั่วไทยเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากสามารถทำให้การขนส่งสินค้าเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

บริการ รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ราคาถูก หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "ขนส่ง" ได้เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีความสะดวกสบายและราคาที่เหมาะสมกับการขนส่งของเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่มีน้ำหนักใหญ่หรือของบรรทุกที่ต้องการขนส่งไปยังต่างจังหวัด

   
ขั้นตอนการใช้บริการ รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ราคาถูก ที่ใครก็เรียกใช้งานได้

    เลือกผู้ให้บริการ ด้วยความที่รถรับจ้างมีหลายเจ้าจึงควรเลือก รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ราคาถูก ที่มีการให้บริการที่ดี มีรถให้เลือกหลายประเภท ราคาเป็นกลาง ติดต่อง่าย มีการให้บริการที่หลากหลายและดูน่าเชื่อถือ ควรหลีกเลี่ยงบริการที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีรายละเอียดในการให้บริการ ซึ่งเราพร้อมให้บริการอย่างดี
    แจ้งสถานที่จัดส่งและประเภทสินค้า ควรแจ้งให้ทีมงานขนส่ง รถรับจ้างทราบก่อนว่าของที่ต้องการขนส่งเป็นอะไรและจัดส่งที่จังหวัดไหน เพื่อเลือกรถได้เหมาะสมกับประเภทของที่ต้องการขนย้าย ขนของได้พอดี รถไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป เพราะหากเลือกรถขนาดเล็กจะทำให้ต้องใช้รถหลายคันและเปลืองค่าใช้จ่าย หากมีของเยอะควรเลือกใช้รถขนาดใหญ่เพื่อบรรทุกของได้พอดี ไม่ต้องวิ่งหลายเที่ยวหรือใช้หลายคันให้เปลืองค่าใช้จ่าย
    เลือกประเภทรถ ควรเลือกรถที่เหมาะกับประเภทการขนของ เพราะหากเลือกรถที่ไม่เหมาะกับการขนย้ายจะทำให้สิ่งของเกิดความเสียหายได้ เช่น การขนส่งอาหารทะเลไปต่างจังหวัด ควรเลือกใช้บริการรถเย็น เพราะจะช่วยควบคุมอุณหภูมิได้ดี ช่วยให้อาหารไม่เน่าเสีย หรือหากต้องการขนของย้ายบ้านไปต่างจังหวัดควรเลือกรถ 4 ล้อขนาดใหญ่หรือรถ 6 ล้อที่บรรทุกของได้เพียงพอ
    ตกลงราคา ควรตกลงราคาก่อนเริ่มใช้บริการเพื่อความพึงพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ช่วยให้ได้ราคาที่ตรงกับความต้องการ และไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จากนั้นชำระเงินเพื่อทำการจองคิว
    เลือกบริการเสริม สำหรับใครที่ต้องการขนของที่มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก หรือมีจำนวนมาก ทีมงานรถรับจ้างหลายแห่งก็จะมีบริการขนของพร้อมคนยก เพื่อช่วยเบาแรงในการเคลื่อนย้ายของ รวมถึงการขนย้ายอย่างถูกวิธีและความรวดเร็วในการขนย้ายด้วย ช่วยป้องกันของเสียหายจากการขนย้ายที่ผิดวิธี

และนี่คือขั้นตอนง่าย ๆในการใช้ บริการรถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ราคาถูก ที่ใครก็สามารถเรียกใช้บริการได้ ใช้บริการง่ายในไม่กี่ขั้นตอน จะใช้ขนส่งพัสดุ ย้ายบ้าน ขนย้ายเครื่องจักร อาหารสด ผัก ผลไม้ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ขนย้ายหอ ย้ายคอนโด ขนย้ายทั่วไป หรืออื่น ๆ ก็สามารถทำได้ ขนส่งขนย้ายได้ทั่วไทยในทุกพื้นที่ เพียงแจ้งพื้นที่ที่ต้องการก็ทำการขนส่งให้แล้ว และหากใครต้องการขนส่งแบบเร่งด่วนก็มีบริการส่งด่วนที่สามารถส่งของให้ถึงที่หมายได้ภายในวันเดียว

   
เลือกบริการ รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ที่มีราคาถูก และบริการทั่วไทย

ควรพิจารณาจากคุณภาพของบริการ ระยะเวลาในการขนส่ง ราคาของบริการ และความปลอดภัยของสินค้าที่ขนส่ง โดยสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริการรถรับจ้างขนของที่สนใจได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือเข้าไปติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สำนักงานของบริษัทขนส่ง

การเลือกบริการรถรับจ้างขนของที่มีราคาถูก ของขนส่ง และบริการทั่วไทยที่ดีสามารถช่วยให้ผู้ใช้บริการประหยัดเวลาและต้นทุนในการขนส่งสินค้า อีกทั้งยังช่วยให้การขนส่งของไปต่างจังหวัดเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วย

นอกจากนี้ การเลือกบริการรถรับจ้างขนของที่มีราคาถูกและบริการทั่วไทยยังช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกบริการที่ตรงกับความต้องการของตนเองได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรถขนส่งที่มีขนาดใหญ่หรือเล็ก เช่น รถกระบะรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด รถหกล้อรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด หรือ รถรับจ้างทั่วไปขนของ ไปต่างจังหวัด ระยะเวลาในการขนส่งที่สะดวกสบาย หรือราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณของลูกค้า


เช็คเรทราคา รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ราคาถูก

รถกระบะรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด

< 20 กม. ราคา เริ่มที่ 1000-1800 บาท

>20 - 50 กม.     เริ่ม 2000-2500 บาท

>50 - 100 กม.   เริ่ม 2500-3000 บาท

>100 - 200 กม. เริ่ม 3000-3900 บาท

>200 - 300 กม. เริ่ม 3900-4000 บาท

>300 - xxx กม. เริ่ม 4000 ขึ้นไป

   
รถ 6 ล้อรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด

< 20 กม. ราคา เริ่ม 2000-3000 บาท

>20 - 50 กม.     เริ่ม  3000-4000 บาท

>50 - 100 กม.   เริ่ม 4000-4500 บาท

>100 - 200 กม. เริ่ม 4500-6000 บาท

>200 - 300 กม. เริ่ม 6000-7500 บาท

>300 - xxx กม. เริ่ม 7500-9000 บาท

8
รถกระบะรับจ้างขนของ นครสวรรค์ ย้ายบ้าน ย้ายหอพัก ย้ายเครื่องจักร ทุกการขนย้าย ทำได้ง่ายๆ

เมื่อการขนย้ายเป็นเรื่องยุ่งยาก มาทำให้การขนย้ายเป็นเรื่องง่ายๆ กันค่ะ ด้วย รถรับจ้างขนย้ายนครสวรรค์ หากคุณเคยประสบปัญหากับการขนย้าย ไม่ว่าจะเป็นการย้ายบ้าน ย้ายหอพัก ย้ายร้าน หรือขนย้ายเครื่องจักรที่มีขนาดใหญ่ การขนย้ายอาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่วุ่นวาย ทั้งการแพ็คของ การจัดเตรียมพาหนะ รวมถึงความปลอดภัยในการขนส่ง รถรับจ้างขนย้ายนครสวรรค์พร้อมเข้ามาช่วยเปลี่ยนวันวุ่นๆ ของคุณให้กลายเป็นวันที่สบายๆ เรามีบริการรถรับจ้างหลากหลายประเภท ทั้ง รถกระบะ รถหกล้อ รถสิบล้อ รถเทรลเลอร์ รถเฮี๊ยบ พร้อมทีมงานมืออาชีพที่ชำนาญการขนย้ายทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการขนของในพื้นที่หรือระหว่างจังหวัด เราพร้อมดูแลอย่างดีที่สุด ด้วยการบริการที่รวดเร็ว ปลอดภัย และราคาสบายกระเป๋าค่ะ

   
รถรับจ้างนครสวรรค์ บริการรถด่วน

เมื่อคุณต้องการขนย้ายแบบด่วน เพียงโทรหาเรา แล้วปล่อยให้การขนย้ายเป็นหน้าที่ของทีมงานมืออาชีพจาก รถรับจ้างขนย้ายนครสวรรค์ ที่จะช่วยทำให้ทุกการขนย้ายของคุณง่ายและสะดวกขึ้น ในสถานการณ์ที่คุณต้องการความช่วยเหลือในการขนย้ายอย่างเร่งด่วน เช่น การย้ายของที่ต้องทำภายในวันเดียว หรือการขนย้ายที่เกิดขึ้นแบบฉุกเฉิน รถรับจ้างขนย้ายนครสวรรค์ พร้อมตอบสนองความต้องการของคุณทันที ด้วยการจัดการที่รวดเร็ว ทีมงานของเราพร้อมจัดรถและทีมขนย้ายที่เหมาะสมที่สุดให้กับคุณภายในเวลาอันสั้น

   
รถรับจ้างขนย้ายนครสวรรค์ ไปต่างจังหวัด

การขนย้ายไปในระยะทางไกลๆ ต้องมีการวางแผนที่ดีค่ะ รถรับจ้างขนย้ายนครสวรรค์ ไปต่างจังหวัด การจองบริการล่วงหน้าเป็นเรื่องที่สมควรทำก่อนการขนย้ายค่ะ การขนย้ายในระยะทางไกล เช่น ย้ายข้ามจังหวัดหรือข้ามภูมิภาค ต้องการการจัดการที่รอบคอบมากกว่าการขนย้ายภายในพื้นที่ค่ะ เนื่องจากต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น เส้นทางที่เหมาะสม ความปลอดภัย ระยะเวลาในการเดินทาง และความพร้อมของพาหนะและทีมงาน


การวางแผนที่ดีมีความสำคัญอย่างไร?

    การเลือกพาหนะที่เหมาะสม : สำหรับการขนย้ายระยะไกล ควรใช้รถขนย้ายที่มีความจุเพียงพอและสามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย เช่น รถหกล้อหรือรถสิบล้อ ซึ่งต้องจัดหาและเตรียมล่วงหน้า
    การกำหนดเส้นทางเดินรถที่เหมาะสม : การขนย้ายระยะไกลอาจต้องผ่านเส้นทางที่หลากหลาย การวางแผนเส้นทางล่วงหน้าช่วยลดความเสี่ยงในการเผชิญปัญหาการจราจร หรือสภาพถนนที่ไม่เหมาะสม
    การจัดการเวลา : การขนย้ายระยะไกลต้องการเวลาเดินทางมากขึ้น การวางแผนช่วยให้ทราบระยะเวลาที่แน่นอนและลดโอกาสเกิดความล่าช้า


ทำไมการจองบริการล่วงหน้าจึงสำคัญ?

การจองบริการ รถรับจ้างนครสวรรค์ ล่วงหน้าช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าทีมงานและพาหนะที่เหมาะสมจะพร้อมให้บริการในวันที่คุณต้องการ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ให้บริการมีเวลาเตรียมตัวและวางแผนอย่างเต็มที่ ลดโอกาสเกิดความผิดพลาด เช่น การไม่มีรถว่างในวันสำคัญของคุณ ด้วยเหตุนี้ การจองบริการขนย้ายล่วงหน้ากับทีมงานมืออาชีพจึงเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดีที่สุดสำหรับการขนย้ายระยะทางไกล ช่วยให้ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยค่ะ

   
รถรับจ้างนครสวรรค์ ใกล้ฉัน

จะทำยังไงเมื่อไม่รู้ว่าจะติดต่อ รถรับจ้างนครสวรรค์ ยังไง ไม่ยากเลยค่ะ ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ทุกอย่างสามารถทำได้ง่ายดายเพียงปลายนิ้ว ไม่ว่าคุณจะต้องการหา รถรับจ้างนครสวรรค์ ใกล้ฉัน คุณก็สามารถค้นหาและจองบริการได้ง่ายๆ ด้วยมือถือเครื่องเดียว โดยมีวิธีการดังนี้

    ค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต : เปิดเบราว์เซอร์บนมือถือของคุณและค้นหาคำว่า "รถรับจ้างนครสวรรค์" คุณจะพบกับเว็บไซต์หรือเพจต่างๆ ที่ให้บริการ พร้อมข้อมูลติดต่อ ราคา และรายละเอียดบริการที่ครอบคลุม
    ติดต่อผ่านโซเชียลมีเดีย : ทุกวันนี้ผู้ให้บริการส่วนใหญ่มักมีเพจ Facebook, LINE Official คุณสามารถส่งข้อความสอบถามหรือโทรติดต่อผ่านช่องทางเหล่านี้ได้ทันที
    โทรศัพท์โดยตรง : หากพบเบอร์โทรศัพท์ของผู้ให้บริการผ่านเว็บไซต์หรือโฆษณา เพียงแค่กดโทรหา คุณก็สามารถพูดคุยและสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับบริการได้ เช่น ประเภทของรถที่เหมาะสม ราคา หรือวันเวลาที่สะดวก
    ใช้แอปพลิเคชันเฉพาะทาง : บางผู้ให้บริการอาจมีแอปพลิเคชันสำหรับจองรถรับจ้างโดยเฉพาะ ซึ่งช่วยให้คุณเลือกประเภทของรถ วันที่ และระยะทางได้อย่างสะดวก พร้อมรับการยืนยันการจองทันที

เพียงไม่กี่ขั้นตอนง่ายๆ นี้ คุณก็สามารถหา รถรับจ้างนครสวรรค์ ใกล้ฉัน ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว อย่าลืมเตรียมข้อมูลเบื้องต้น เช่น จำนวนของที่ต้องการขนย้าย จุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทาง เพื่อให้ผู้ให้บริการประเมินและเสนอราคาที่เหมาะสมค่ะ

เพียงแค่โทรหา รถรับจ้างขนย้ายนครสวรรค์ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการขนย้ายอีกต่อไป เพราะเราจะช่วยเปลี่ยนทุกขั้นตอนให้เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสำหรับคุณ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา บริการรถรับจ้าง เลือกขนส่ง เป็นตัวช่วยคุณนะคะ โทรหาเราได้เลย

9
จัดฟันบางนา: กาจัดฟันแบบใส ทำให้เราสามารถเห็นผลการรักษาล่วงหน้าได้หรือไม่

การเข้ารับการจัดฟันแบบใส เป็นการจัดฟันรูปแบบหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องของของรูปร่างและลักษณะของฟัน ที่มีความผิดปกติ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งการที่เรามีรูปร่างฟันที่ผิดปกติ อาจจะทำให้เราสามารถบดเคี้ยวอาหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือทำความสะอาดฟันได้ยาก ดังนั้น การแก้ไขปัญหาฟันในเรื่องของรูปร่างฟันนั้น การเข้ารับการจัดฟันจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่การเข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้น สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้แทบจะทุกกรณี  แต่ถ้าหากผู้เข้ารับการจัดฟันมีปัญหาฟันที่สามารถแก้ไขได้ยาก ทันตแพทย์อาจจะแนะนำให้ทำการรักษาก่อนที่จะเข้ารับการจัดฟันแบบใส ถึงแม้ว่าการจัดฟันแบบใสจะสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างหลากหลาย

แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่อาจจะทำให้ผู้เข้ารับการรักษาไม่สามารถเข้ารับการจัดฟันแบบใสได้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้เข้ารับการรักษามีปัญหาของโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งกรณีนี้ทันตแพทย์อาจจะให้เข้ารับการรักษาก่อนที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส อย่างที่หลายคนอาจจะเคยทราบกันดีอยู่แล้วว่า การเข้ารับการจัดฟันแบบใส มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมในรูปแบบใหม่เข้ามาช่วยในการรักษา ตั้งแต่ขั้นตอนของการวางแผนการรักษาไปจนถึงขั้นตอนการรักษา หลายคนอาจจะมีคำถามว่า การเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใสนั้น ทำให้เราสามารถเห็นผลการรักษาล่วงหน้าได้หรือไม่ ต้องอธิบายก่อนว่า การวางแผนการรักษาในการจัดฟันแบบใสนั้น ทันตแพทย์จะทำการวิเคราะห์ปัญหาฟันของเราด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และทำการวางแผนการรักษาด้วยระบบคอมพิวเตอร์ แสดงในรูปแบบของ 3D จึงทำให้เราได้เห็นวิธีการทำงานของเครื่องมือการจัดฟันได้ตลอดจนจัดฟันเสร็จ

ซึ่งวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงผลการรักษาของการจัดฟันแบบใสของแต่ละบุคคลซึ่งทางผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถทราบผลการรักษาล่วงหน้าได้หรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบ สำหรับการจัดฟันแบบใสนั้น เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในการรักษาเรามีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการรักษา จึงทำให้มีผลการรักษาที่แม่นยำ ตามที่ทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาได้วางแผนเอาไว้  และการจัดฟันแบบใสแทบไม่เห็นว่ามีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ และจุดเด่นอีกข้อหนึ่งก็คือ การที่ผู้เข้ารับการรักษาจะสามารถเห็นผลการรักษาล่วงหน้าได้ สามารถเห็นผลการรักษาแบบ step by step ได้เลย

นอกจากนี้ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถออกแบบการจัดฟันร่วมกับทันตแพทย์ได้ ดังนั้น การเข้ารับการจัดฟันแบบใส ไม่ใช่ทำได้เพียงแค่ให้เราสามารถมองเห็นผลการรักษาได้ล่วงหน้า แต่ยังทำให้เราสามารถวางแผนการรักษาร่วมกับทันตแพทย์ได้ด้วย จึงทำให้เราสามารถออกแบบรอยยิ้มให้ตัวเองได้ สามารถออกแบบฟันของเราได้ โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้นมา

โดยอาศัยข้อมูลจากผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสทั่วโลก ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถออกแบบรอยยิ้มให้กับตัวเองได้นี่คือ ข้อดีของการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใสอีกอย่างหนึ่ง ถือว่าทำให้เราสามารถพึงพอใจในการรักษาได้ แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย อย่างไรก็ตาม การจัดฟันแบบใส ยังมีผลการรักษาที่แม่นยำ นี่ถือว่าเป็นข้อดีและสาเหตุที่ทำให้การเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใส จึงได้รับความนิยมทั่วโลก เพราะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

สำหรับใครที่สนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรรามีทันตแพทยน์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟัน และยังได้รับการรับรองจากทาง Invisalign จึงมั่นใจได้ว่า คลินิกของเราจะทำให้เรามีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติได้อย่างแน่นอน ทั้งยังช่วยเสริมสร้างในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันได้อย่างดีอีกด้วย เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น และยังช่วยทำให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างแน่นอน

10
การใช้ผ้ากันไฟให้ถูกวิธี

การใช้ผ้ากันไฟให้ถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสามารถป้องกันอันตรายจากไฟและสะเก็ดไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีขั้นตอนและข้อควรระวังดังนี้:

1. การตรวจสอบสภาพผ้า
ก่อนใช้งานทุกครั้ง ควรตรวจสอบผ้ากันไฟว่ามีรอยฉีกขาด ชำรุด หรือเสื่อมสภาพหรือไม่
ผ้ากันไฟที่เสื่อมสภาพจะไม่สามารถป้องกันไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. การเลือกใช้ผ้าให้เหมาะสมกับงาน
ผ้ากันไฟมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ควรเลือกใช้ผ้ากันไฟให้เหมาะสมกับลักษณะงาน เช่น
ผ้ากันสะเก็ดไฟ: ใช้สำหรับงานเชื่อม งานเจียร หรือตัดโลหะ
ผ้าห่มดับไฟ: ใช้สำหรับดับไฟขนาดเล็ก เช่น ไฟไหม้กระทะ หรือไฟไหม้เสื้อผ้า
ม่านกันไฟ: ใช้สำหรับกั้นแบ่งพื้นที่เพื่อป้องกันการลามของไฟ
ฉนวนกันความร้อน: ใช้สำหรับหุ้มฉนวนท่อหรืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อน

3. วิธีการใช้งาน

ผ้ากันสะเก็ดไฟ:
วางผ้ากันไฟให้ครอบคลุมบริเวณที่ทำงาน เพื่อป้องกันสะเก็ดไฟกระเด็นออกไป
หากทำงานในพื้นที่แคบ อาจใช้ผ้ากันไฟขนาดเล็ก หรือพับผ้ากันไฟให้มีขนาดเหมาะสม
ควรระมัดระวังไม่ให้ผ้ากันไฟสัมผัสกับเปลวไฟโดยตรงเป็นเวลานาน

ผ้าห่มดับไฟ:
ดึงผ้าห่มดับไฟออกจากซองบรรจุอย่างรวดเร็ว
คลุมผ้าห่มดับไฟลงบนเปลวไฟให้มิดชิด เพื่อตัดการเข้าถึงออกซิเจน
ปิดแหล่งกำเนิดไฟ (ถ้าทำได้อย่างปลอดภัย)
รอจนกว่าไฟจะดับสนิท และปล่อยให้ผ้าห่มดับไฟเย็นลง ก่อนที่จะนำออก

ม่านกันไฟ:
ติดตั้งม่านกันไฟให้ครอบคลุมช่องเปิดที่ต้องการกั้น
ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าม่านกันไฟปิดสนิท ไม่มีช่องว่างให้ไฟลามผ่านได้

ฉนวนกันความร้อน:
หุ้มฉนวนกันความร้อนให้แน่นหนา เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อน
ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าฉนวนกันความร้อนไม่ฉีกขาด หรือหลุดล่อน

4. ข้อควรระวังในการใช้งาน
ไม่ควรใช้งานผ้ากันไฟในบริเวณที่มีเปลวไฟขนาดใหญ่ หรือมีสารไวไฟ
ไม่ควรใช้งานผ้ากันไฟในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่าที่กำหนด
ควรระมัดระวังไม่ให้ผ้ากันไฟสัมผัสกับของมีคม หรือสารเคมี
หากใช้ผ้าห่มดับไฟ ควรคลุมให้มิดชิดเพื่อตัดอากาศ

5. การเก็บรักษา
ควรเก็บรักษาผ้ากันไฟในที่แห้งและเย็น เพื่อป้องกันความชื้นและเชื้อรา
ควรเก็บผ้ากันไฟให้พ้นจากแสงแดดโดยตรง และสารเคมี
ไม่ควรเก็บผ้ากันไฟไว้ใกล้วัตถุไวไฟ

6. การดูแลรักษา
ควรทำความสะอาดผ้ากันไฟเป็นประจำ เพื่อขจัดฝุ่นละอองและคราบสกปรก
ควรตรวจสอบผ้ากันไฟอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

7. มาตรฐานความปลอดภัย
ควรเลือกผ้ากันไฟที่มีมาตรฐานรับรอง เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย

8. ข้อควรจำ
ผ้ากันไฟไม่ได้ป้องกันไฟได้ทุกชนิด ควรเลือกใช้ให้เหมาะสม
ผ้ากันไฟเป็นเพียงอุปกรณ์ป้องกันเบื้องต้น ควรมีอุปกรณ์ดับเพลิงอื่นๆ เตรียมพร้อมไว้ด้วย
หากเกิดเหตุไฟไหม้ขนาดใหญ่ ควรรีบอพยพออกจากพื้นที่ และแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทันที

11
บริการด้านอาหาร: อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 หรือไพริดอกซีน ช่วยบำรุงสมอง ลดซึมเศร้า

วิตามินบี 6 หรือไพริดอกซิน เป็นหนึ่งในวิตามินบี 8 ชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย สารอาหารจากวิตามินชนิดนี้จำเป็นต่อการทำงานสำคัญทั่วร่างกายของเรา ไม่ว่าจะเป็นการลดความเครียด รวมไปถึงการรักษาสุขภาพที่ดีโดยรวม

     วิตามินบี 6 เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ซึ่งร่างกายต้องการสำหรับการทำงานหลายอย่าง วิตามินชนิดนี้มีความสำคัญต่อเมตาบอลิซึม มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดเลือดแดงและสารสื่อประสาท การบริโภควิตามินบี 6 ในปริมาณที่เพียงพอ มีความสำคัญต่อสุขภาพที่ดีและสามารถช่วยป้องกันและรักษาโรคเรื้อรัง ร่างกายของเราไม่สามารถผลิตวิตามินบี 6 ได้เอง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องได้รับจากการรับประทานอาหารเท่านั้น

 
ประโยชน์ของวิตามินบี 6 (ไพริดอกซิน)

    ช่วยปรับอารมณ์และลดอาการซึมเศร้า
    ช่วยบำรุงสมองและลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์
    ช่วยป้องกันและรักษาโรคโลหิตจาง โดยการช่วยผลิตเฮโมโกลบินในเลือด
    มีส่วนช่วยในการรักษาอาการ PMS หรืออาการก่อนมีรอบเดือน
    ช่วยรักษาอาการคลื่นไส้ในระหว่างตั้งครรภ์
    ป้องกันหลอดเลือดอุดตันและลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
    ช่วยป้องกันมะเร็ง
    ช่วยบำรุงดวงตาและป้องกันโรคตา
    มีส่วนช่วยรักษาอาการอักเสบที่เกิดจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

 
7 อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 ไพริดอกซีน

 1. นม

การขาดวิตามินบี 6 อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้ อย่างการส่งผลเสียต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็ก ซึ่งการดื่มนมทุกวันสามารถช่วยรักษาระดับวิตามินบี 6 ให้กลับมาสูงได้ ไม่ว่าจะเป็นนมวัวหรือนมแพะ นม 1 ถ้วยให้วิตามินบี 6 คิดเป็นร้อยละ 5 ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน นอกจากนี้นมยังให้วิตามินบี 12 และแคลเซียมในปริมาณสูงอีกด้วย

 
2. ปลาแซลมอน

ปลาชนิดนี้มีวิตามินบี 6 ที่เข้มข้นและถือเป็นอาหารที่มีวิตามินบี 6 สูงสุดชนิดหนึ่ง และความสำคัญต่อการทำงานของต่อมหมวกไต ช่วยในการผลิตฮอร์โมนที่สำคัญ ได้แก่ คอร์ติซอล อะดรีนาลิน และอัลโดสเตอโรน ซึ่งฮอร์โมนที่ผลิตในต่อมหมวกไตช่วยควบคุมความดันโลหิตและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

 
3. ไข่

ไม่ว่าจะปรุงด้วยวิธีใด ไข่ 2 ฟองก็ให้วิตามินบี 6 ร้อยละ 10 ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน รวมถึงยังให้โปรตีนและสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ไข่ยังเป็นอาหารสารพัดประโยชน์ที่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ

 
4. ตับไก่

ตับไก่จัดเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นแหล่งโปรตีน โฟเลต และวิตามินเอชั้นเยี่ยม รวมทั้งยังอุดมไปด้วยไพรีดอกซีนหรือวิตามินบี 6 รวมถึงยังมีวิตามินบี 12 ซึ่งช่วยให้ร่างกายสลายและนำโปรตีนไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 
5. แครอท

แครอท 1 หัวขนาดกลาง ให้วิตามินบี 6 มากพอๆ กับนม 1 แก้ว แถมยังมีไฟเบอร์และวิตามินเอในปริมาณที่สูงมาก เราสามารถกินแครอทแบบดิบ ปรุงสุก หรือนำไปทำเป็นสมูทตี้หรือน้ำผลไม้ก็ได้ ไพรีดอกซีนหรือวิตามินบี 6 ในแครอท สามารถช่วยสร้างปลอกหุ้มโปรตีนรอบเซลล์ประสาท หรือที่เรียกว่า ไมอีลิน ทำให้กระแสประสาทเคลื่อนที่ได้ไวมากขึ้น

 
6. มันเทศ

มันเทศหรือมันหวานขนาดกลาง 1 หัว ให้วิตามินบี 6 ร้อนละ 15 ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน มันเทศยังมีไฟเบอร์ วิตามินเอ และแมกนีเซียมจำนวนมาก วิตามินบี 6 ในมันเทศสามารถช่วยให้ร่างกายควบคุมไกลโคเจน ซึ่งเป็นพลังงานที่สะสมอยู่ในตับและกล้ามเนื้อ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปรับระดับกลูโคสในเลือดให้คงที่

 
7. เนื้อสัตว์

เนื้อสัตว์อาจมีไขมันสูง แต่ก็มีโปรตีนและสารอาหารอื่นๆ ในปริมาณมาก รวมทั้งวิตามินบี 6 หรือ ไพรีดอกซีน การบริโภคเนื้อสัตว์ให้หลากหลายช่วยให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่สำคัญอย่างเพียงพอ รวมถึงยังได้รับสารอาหารรองที่จำเป็นอีกด้วย

12
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: มะเร็งไทรอยด์ (Thyroid cancer)

มะเร็งไทรอยด์ เป็นโรคที่พบได้ในคนทุกวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะพบมากในคนอายุ 20-40 ปี และ 50-70 ปี พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย

ปัจจุบันมีแนวโน้มพบมะเร็งไทรอยด์ได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน เหตุผลส่วนหนึ่งคือ เทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยให้สามารถตรวจพบโรคตั้งแต่เริ่มก่อตัวเป็นมะเร็งขนาดเล็ก ๆ

มะเร็งไทรอยด์สามารถแบ่งเป็นหลายชนิด ซึ่งมีความรุนแรงแตกต่างกันไป ที่พบได้บ่อย ได้แก่

    มะเร็งไทรอยด์ชนิดแพพิลลารี (papillary) ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด (ประมาณร้อย 70 ของมะเร็งไทรอยด์) พบมากในคนอายุ 20-40 ปี กับในวัยสูงอายุ และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 2-3 เท่า ก้อนมะเร็งจะโตช้า และมีความรุนแรงน้อย หลังการรักษาด้วยการผ่าตัด จะมีโอกาสมีชีวิตยืนยาวหรือหายขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าก้อนมะเร็งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางต่ำกว่า 2 ซม.
    มะเร็งไทรอยด์ชนิดฟอลลิคูลาร์ (follicular) ซึ่งพบได้ ประมาณร้อยละ 15 ของมะเร็งต่อมไทรอยด์ มักพบในผู้สูงอายุ จะมีความรุนแรงตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงมาก ถ้าเป็นชนิดรุนแรงมาก อาจลุกลามไปยังปอด กระดูกและสมอง และบางครั้งทำให้เกิดภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน

ส่วนอีก 2 ชนิดพบได้ค่อนข้างน้อย ได้แก่ ชนิดเมดุลลารี (medullary) และชนิดอะนาพลาสติก (anaplastic) จะมีความรุนแรงสูง ก้อนมะเร็งจะโตเร็วและแพร่กระจายง่าย พบมากในผู้สูงอายุ ชนิดเมดุลลารีอาจมีประวัติว่ามีคนในครอบครัวเป็นด้วย

สาเหตุ

ส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุ

ส่วนน้อยอาจเกิดจากการสัมผัสรังสี ซึ่งอาจพบในมะเร็งชนิดแพพิลลารี และฟอลลิคูลาร์ (เช่น ได้รับรังสีบำบัดที่บริเวณคอมาก่อน การรับรังสีจากอุบัติเหตุ) บางรายอาจสัมพันธ์กับปัจจัยทางกรรมพันธุ์ คือพบว่ามีพ่อแม่พี่น้องเป็นมะเร็งไทรอยด์ (เช่น กรณีที่เป็นมะเร็งไทรอยด์ชนิดเมดุลลารี)

อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการคอพอก (คอโต) หรือเป็นปุ่มเนื้อของต่อมไทรอยด์ ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นก้อนแข็งชนิดเดี่ยว ๆ  ส่วนน้อยอาจเป็นหลายก้อน มักมีลักษณะติดแน่นกับเนื้อเยื่อโดยรอบ ขยับไปมาไม่ค่อยได้ และไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด ยกเว้นในรายที่มีเลือดออกซึมเข้าไปในก้อนมะเร็ง อาจทำให้มีอาการเจ็บปวดคล้ายต่อมไทรอยด์อักเสบได้

บางรายอาจมีอาการเสียงแหบ กลืนลำบาก หรือมีต่อมน้ำเหลืองข้างคอโตร่วมด้วย

ในรายที่ก้อนโตเร็ว อาจโตกดท่อลมหรือหลอดอาหาร ทำให้หายใจลำบากหรือกลืนลำบาก

ต่อมไทรอยด์ของผู้ป่วยส่วนมากยังหลั่งฮอร์โมนได้ตามปกติ มักไม่มีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินหรือภาวะขาดไทรอยด์

บางรายอาจไม่สังเกตเห็นความผิดปกติชัดเจน เนื่องจากก้อนมะเร็งมีขนาดเล็ก แต่แพทย์ตรวจพบโดยบังเอิญจากการตรวจสุขภาพหรือผู้ป่วยไปพบแพทย์ด้วยโรคอื่น

ภาวะแทรกซ้อน

เซลล์มะเร็งอาจแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองที่ข้างคอและประจันอก (mediastinum) หรือแพร่ผ่านกระแสเลือดไปที่สมอง ตับ ปอด และกระดูก

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

คลำพบต่อมไทรอยด์โตเป็นปุ่มหรือก้อนแข็ง หรือมีลักษณะโตเร็ว หรือติดแน่นกับเนื้อเยื่อโดยรอบ บางรายอาจมีต่อมน้ำเหลืองที่ข้างคอโตร่วมด้วย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยโดยการตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ (T4, free T4) และฮอร์โมนกระตุ้นไทรอยด์ในเลือด การตรวจอัลตราซาวนด์ต่อมไทรอยด์ การตรวจสแกนต่อมไทรอยด์ การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ต่อมไทรอยด์ การตรวจชิ้นเนื้อไทรอยด์โดยการใช้เข็มเจาะดูด (fine needle aspiration biopsy)

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะทำการรักษาด้วยการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ และให้ฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อลดการหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นไทรอยด์ (TSH) ซึ่งมีส่วนกระตุ้นการเติบโตของเซลล์มะเร็ง

ในบางรายอาจต้องให้สารไอโอดีนกัมมันตรังสี (I131) เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งที่อาจหลงเหลือจากการผ่าตัด

ในรายที่เป็นชนิดรุนแรง หรือรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล แพทย์จะให้การรักษาด้วยรังสีบำบัด (การฉายรังสี) และ/หรือ เคมีบำบัด

ผลการรักษาขึ้นกับชนิดของมะเร็งและระยะของโรค

สำหรับมะเร็งไทรอยด์ชนิดแพพิลลารี  ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด และมีความรุนแรงน้อย หลังการรักษาด้วยการผ่าตัด จะมีโอกาสมีชีวิตยืนยาวหรือหายขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าก้อนมะเร็งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางต่ำกว่า 2 ซม.

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น คลำได้ก้อนไทรอยด์ หรือต่อมน้ำเหลืองที่ข้างคอ มีอาการเสียงแหบ หรือกลืนลำบากควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งไทรอยด์ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันน้อย (เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง)
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งงานอดิเรกที่ชอบ และงานจิตอาสา เท่าที่ร่างกายจะอำนวย
    ทำสมาธิ เจริญสติ หรือสวดมนต์ภาวนาตามหลักศาสนาที่นับถือ
    ถ้ามีโอกาสควรหาทางเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน หรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
    ผู้ป่วยและญาติควรหาทางเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย ยอมรับความจริง และใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด
    ถ้าหากมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและวิธีบำบัดรักษา รวมทั้งการแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร ยาหม้อ ยาลูกกลอน การนวด ประคบ การฝังเข็ม การล้างพิษ หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น น้ำหนักลด เจ็บคอ เสียงแหบ คอโตมากขึ้น มือจีบเกร็งหรือกล้ามเนื้อเป็นตะคริว
    ขาดยาหรือยาหาย
    กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ส่วนใหญ่ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

ควรป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม โดยการไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาแต่เนิ่น ๆ เมื่อสังเกตว่ามีอาการที่น่าสงสัย

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งไทรอยด์ชนิดเมดุลลารี เช่น มีประวัติโรคนี้ในครอบครัว แพทย์จะทำการตรวจสารพันธุกรรม ถ้าพบว่ามียีน (พันธุกรรม) ของมะเร็งชนิดนี้ แพทย์อาจทำการผ่าตัดไทรอยด์เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็ง

ข้อแนะนำ

1. ถ้าพบคอพอกมีลักษณะเป็นปุ่มหรือก้อนแข็ง เสียงแหบ กลืนลำบากหรือมีต่อมน้ำเหลืองที่ข้างคอโตร่วมด้วย ควรสงสัยว่าเป็นมะเร็งของไทรอยด์ และควรไปปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

2. มะเร็งไทรอยด์ส่วนใหญ่เป็นชนิดที่โตช้าและรุนแรงน้อย เมื่อได้รับการผ่าตัดร่วมกับการรักษาอื่น ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ก็มักหายขาดหรือมีชีวิตยืนยาว

3. อาการต่อมไทรอยด์โตเป็นก้อนเฉพาะแห่ง (โดยส่วนอื่น ๆ ของต่อมไทรอยด์เป็นปกติ) มีเพียงส่วนน้อยที่อาจเป็นมะเร็ง ส่วนมากจะมีสาเหตุที่ไม่ร้ายแรง เช่น ถุงน้ำไทรอยด์ (thyroid cyst) ซึ่งจะมีลักษณะค่อนข้างนุ่ม หรืออาจเป็นเนื้องอกไทรอยด์ (thyroid adenoma) ซึ่งมีลักษณะไม่แข็งมาก บางชนิดอาจทำให้เกิดภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่มีก้อนที่คอ ควรแนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ทุกราย และเมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าไม่ใช่มะเร็ง ก็ขอให้สบายใจได้ การรักษาก้อนของต่อมไทรอยด์ที่ไม่ใช่มะเร็ง ถ้าก้อนขนาดเล็กอาจไม่ต้องทำอะไร ถ้าก้อนโตมากอาจต้องผ่าตัด

13
หมอออนไลน์: โรคขาดวิตามินเอ/เกล็ดกระดี่ขึ้นตา (Vitamin A deficiency)

โรคขาดวิตามินเอ ยังพบได้ในท้องที่ชนบทบางแห่ง (พบบ่อยทางภาคอีสาน) และในเด็กที่ยากจน

ภาวะขาดวิตามินเอ ทำให้ประสาทตาส่วนที่เรียกว่าจอตา หรือเรตินา (retina) เสื่อม ทำให้เยื่อบุตาแห้งและต่อมน้ำตาไม่ทำงาน จึงอาจทำให้เด็กที่เป็นโรคนี้ตาบอดได้ ดังที่ชาวบ้านรู้จักกันดีว่าเป็น โรคเกล็ดกระดี่ขึ้นตา

สาเหตุ

มักจะพบในเด็กวัยแรกเกิดถึงอายุ 5 ปี เกิดจากการกินอาหารที่มีวิตามินเอน้อยไป เช่น กินแต่นมข้นหวาน กล้วยบดและข้าว โดยไม่ได้อาหารเสริมอื่น ๆ โรคนี้มักจะพบร่วมกันไปกับโรคขาดอาหาร บางรายอาจเป็นหลังจากเป็นโรคติดเชื้อ (เช่น หัด ปอดอักเสบ) หรือท้องเดินเรื้อรัง

ในผู้ใหญ่พบได้น้อย ถ้าพบมักมีสาเหตุจากโรคอื่น ๆ เช่น โรคตับเรื้อรัง โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง เป็นต้น มีผลทำให้การดูดซึมวิตามินเอน้อยลง

อาการ

เริ่มแรกจะมีอาการตาฟางหรือมองไม่เห็นเฉพาะตอนกลางคืนหรือในที่มืด ๆ (แต่มองเห็นเป็นปกติในเวลากลางวัน และในที่สว่าง ๆ) เนื่องจากจอตาเริ่มเสื่อม ต่อมาเยื่อตาขาวแห้ง เมื่อเป็นมากขึ้นเยื่อตาขาวจะย่นอยู่รอบ ๆ กระจกตาดำดูคล้ายเกล็ดปลา และกระจกตาดำซึ่งปกติสะท้อนแสงวาววับ จะแห้งและไม่มีประกาย ตาขาวจะเปลี่ยนเป็นสีเทาหรือสีเงิน เห็นเป็นจุดใหญ่ทางด้านหางตา เรียกว่า จุดบิทอตส์ (Bitot’s spot) หรือเกล็ดกระดี่ อาจเป็นที่ตาทั้ง 2 ข้าง ถ้ารักษาในระยะนี้จะแก้ได้ทัน

ในเด็กเล็กมักตรวจพบเมื่อมีการอ่อนตัวของกระจกตาดำแล้ว จะพบหนังตาบวม ปิดตาแน่น ไม่ยอมลืมตา

ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าปล่อยทิ้งไว้กระจกตาจะเกิดการอ่อนตัว เป็นแผล และเกิดรูทะลุ มีเชื้อโรคเข้าไปในลูกตา ทำให้เกิดการอักเสบภายในลูกตา ตาบอดได้ นอกจากนี้ เด็กที่มีภาวะขาดวิตามินเอหากเป็นหัด อาจกลายเป็นโรคหัดชนิดรุนแรงได้

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

เยื่อตาขาวรอบ ๆ กระจกตาดำเป็นรอยย่น กระจกตาดำขุ่นมัวไม่สะท้อนแสงและเกล็ดกระดี่ตรงด้านหางตา

ถ้าจำเป็น แพทย์จะทำการตรวจระดับวิตามินเอในเลือด

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. เมื่อเริ่มมีอาการตาบอดกลางคืน หรือเริ่มมีเกล็ดกระดี่ขึ้นตา แพทย์จะให้กินวิตามินเอชนิดแคปซูล หรือหากจำเป็นอาจใช้วิตามินเอชนิดฉีด

2. ถ้ามีการติดเชื้ออักเสบ แพทย์จะรับไว้รักษาในโรงพยาบาล ให้กินวิตามินเอชนิดแคปซูล หรือฉีดวิตามินเอ ร่วมกับให้กินยาปฏิชีวนะ เช่น อะม็อกซีซิลลิน อีริโทรไมซิน ถ้าเด็กปิดตาแน่น อย่าพยายามเปิดตาเด็ก เพราะอาจทำให้กระจกตาดำแตกทะลุได้

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการตาฟางหรือมองไม่เห็นเฉพาะตอนกลางคืนหรือในที่มืด ๆ  ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคขาดวิตามินเอ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลา
    ขาดยาหรือยาหาย
    กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

โรคนี้เป็นแล้วทำให้ตาบอดได้ แต่เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยการกินอาหารที่มีวิตามินเอสูง เช่น เนื้อ ตับ ไข่ นม ฟักทอง มะเขือเทศ มะละกอสุก ผักใบเขียว (ผักบุ้ง ใบตำลึง ใบมันสำปะหลัง) พริกที่เผ็ด ๆ จึงควรแนะนำให้เด็ก ๆ กินอาหารเหล่านี้ให้มากเป็นประจำ

ถ้าไม่แน่ใจว่าเด็กจะได้รับอาหารที่มีวิตามินเอเพียงพอ อาจให้กินวิตามินเอเสริม

ข้อแนะนำ

เด็กที่มีภาวะขาดวิตามินเอ เมื่อเป็นหัด ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อพิจารณาให้วิตามินเอเสริม ซึ่งจะช่วยลดความพิการและการเสียชีวิตลงได้

14
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


15
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


หน้า: [1] 2 3 ... 55
ลงประกาศฟรี โฆษณาฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทสินค้าฟรี เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google